top of page

เนื้อหาที่มีคุณค่า Valuable Content

อัปเดตเมื่อ 6 มี.ค. 2564



อยากได้โฆษณาแบบใหม่ที่ไม่ซ้ำ สิบห้าวิต้องปัง กลุ่มเป้าหมายจะส่งต่อหรือไม่? หลากหลายคำถามที่เกิดขึ้นมากมายในปัจจุบันที่เราในฐานะคนผลิตที่ต้องการจะใช้การโฆษณาเป็นตัวสื่อสารเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายหรือผู้บริโภคที่เราวางไว้ได้เข้าใจ และมีทัศนคติที่ดีกับแบรนด์จนเกิดความรู้สึกอยากจะเสียเงินเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ในวันที่ช่องทางของโลกออนไลน์ก็มีหลากหลายมากพอกับสินค้าชนิดเดียวกันที่เกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นก่อนที่เราจะลงมือเพื่อหวังว่า การผลิตวิดีโอ หรือ วิธีคิด content ของเราจะชนะคู่แข่งได้ เราต้องให้ควาสำคัญและรู้จักกับเนื้อหาของเราให้มากที่สุด เพื่อให้เราได้รู้ว่า เนื้อหาหรือสิ่งที่จะนำเสนอไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบต่างๆเหล่านั้น เรารู้จักข้อมูลที่ว่ามากน้อยแค่ไหน

วันนี้พวกเราชาวมีค่า สตูดิโอ จึงจะนำแนวคิดเกี่ยวกับ การตลาดเชิงเนื้อหา หรือ content marketing มานำเสนอเพื่อให้การทำการตลาดบนโลกออนไลน์ของเรานำเสนอได้ตรงจุด และเราจะได้ใช้งบประมาณในส่วนของโฆษณาได้อย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อดึงดูดความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคที่เราคาดหวังจะให้การสื่อสารนั้นตรงใจและตอบโจทย์ที่สุด โดยวิธีการนี้เป็นแนวคิดที่ ณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง (2557) ได้ศึกษาและบอกเล่าไว้ ด้วยวิธีการที่มีค่า สตูดิโอคิดว่า เป็นอีกหนึ่งแนวทางเริ่มต้นที่เราสามารถนำมาปรับใช้และพัฒนาต่อได้ ไม่ว่าเราจะเริ่มคิด content เองสำหรับคนที่งบน้อย หรือไม่มีทีมช่วย


1. มีประโยชน์ (Useful)

โดยปกติแล้วมนุษย์จะมีความคิดว่าสิ่งใดมีคุณค่า ก็ต่อเมื่อสิ่งต่างๆ นั้นได้เอื้อประโยชน์ ทั้งนี้การสร้างเนื้อหาจึงต้องคำนึงถึงเวลาการนำเสนอไปแล้วจะเกิดประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมายได้หรือไม่ ตรงกับความคาดหวังของผู้บริโภคเนื้อหาหรือไม่ แทนที่จะคิดว่าจะมี ประโยชน์กับแบรนด์หรือไม่ และคำนึงถึงประโยชน์ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นเนื้อหา เชิงวิชาการ หรือสาระหนักๆ แต่ทั้งนี้หมายถึงการให้ความรู้การแนะนำหรือการให้ความบันเทิงใดๆ ก็ตาม

จะเห็นได้ว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการแรกที่พวกเรา มีค่า สตูดิโอ มักจะบอกต่อเสมอเมื่อมีคนถามว่า ถ้าอยากทำ content โดยเฉพาะมือใหม่หรือใครที่อยากจะลองเริ่มทำเองจะเริ่มจากอะไรดี ลองนำเอาสินค้าที่เราต้องการจะบอกมาลองศึกษาดูว่า เนื้อหาแบบไหนที่ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายและทำให้ผู้บริโภคได้เข้าใจสินค้า นั่นอาจจะทำให้เราพบว่า ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเราต้องการส่งสารจะสามารถปรับแต่งเนื้อหาออกมาในรูปแบบไหนได้บ้าง


2) การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

สิ่งสำคัญที่ควรนึกถึงเมื่อต้องการสร้างเนื้อหาที่ดีและมีประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ คือ การพิจารณาว่าเนื้อหาที่มีการสื่อสารถึงวัตถุประสงค์ได้อย่างชัดเจน พร้อมที่จะสามารถให้คำตอบได้ว่า เนื้อหาที่สร้างขึ้นมานั้นมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายอย่างไรบ้าง เพราะหากเราทำบทความให้ดีแค่ไหนก็ตาม หากไม่สามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้ เนื้อหาเหล่านั้นก็ไม่ มีความหมายทันที

ซึ่งข้อมูลนี้พวกเรา มีค่า สตูดิโอ ขอยืนยันอีกเสียงว่า การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การรู้จักกลุ่มเป้าหมายยังเป็นปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างมากที่จะทำให้เราผลิตเนื้อหาและตอบโจทย์ นอกจากนี้เรายังต้องให้ความสำคัญกับช่องทางที่จะไปนำเสนออีกด้วยว่า กลุ่มเป้าหมายของเราเสพสื่อผ่านช่องทางไหน และลักษณะของสื่อที่กลุ่มเป้าหมายของเราเสพนั้นเป็นอย่างไร ก็จะทำให้เราผลิตคอนเทนต์หรือมีวิธีคิด content ออกมาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น


3) มีความชัดเจนเข้าใจง่าย

นอกเหนือจากการพิจารณาถึงการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญก็คือการสร้างเนื้อหาที่ผู้บริโภคทุกๆ คนเขาจะสามารถเข้าใจได้ง่ายว่าเราต้องการสื่อสารถึงเรื่องวัตถุประสงค์อะไร โดยที่จะต้องเอาบรรทัดฐานในการตัดสินใจส่วนตัวมาใช้กับเนื้อหามากเกินไป เพราะจะส่งผลให้เนื้อหาอ่านยาก ดูซับซ้อน

และที่สำคัญที่เราขอเติมเพื่อเสริมข้อมูลลงไปนอกจาก ชัดเจน เข้าใจง่าย อย่าลืมมองในมุมของผู้บริโภคด้วย เพราะที่ผ่านมาเรามักพบว่า เวลาที่เราคิดคอนเทนต์เรามักจะมองกันในฐานะเจ้าของมากกว่าฐานะของผู้บริโภค ดังนั้นอย่าลืมว่า ผู้บริโภคไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับสินค้านั้นๆ เท่าเรา หรือพึ่งเจอเราครั้งแรก ดังนั้นลองถอยออกมาอีกก้าวเพื่อพิจารณาข้อมูลก็จะทำให้เนื้อหาสารที่เราต้องการสื่อสารมีอีกหลายมุมที่สามารถบอกเล่าได้


4) มีคุณค่าที่ดี

หลังจากที่สร้างเนื้อหาที่มีประโยชน์ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแล้วคุณภาพของเนื้อหาก็ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน โดยเราไม่ควรคัดลอกเนื้อหามาเป็นของตนเอง รวมถึงความคมชัดของ รูปภาพและวิดีโอด้วยที่เราควรต้องทำให้มีมาตรฐาน เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อความประทับใจของผู้ที่อ่าน จนอาจจะทำให้ผู้บริโภคเหล่านั้นเลิกสนใจเนื้อหาที่เราสร้างไปถาวร

นอกจากมีคุณค่าที่ดีที่เราควรให้ความสำคัญและสนใจแล้ว เราต้องไม่ไปดึงข้อมูลจากสินค้าที่ใกล้เคียงกับเรามาดัดแปลงหรือทำซ้ำ เพราะอย่าลืมว่า ในปัจจุบันโลกออนไลน์สามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆเหล่านั้นได้ และถ้ากรณีที่จำเป็นจะต้องใช้ข้อมูลนั้นๆ จริงก็อย่าลืมที่จะให้เครดิต เพื่อทำให้รู้ว่าสิ่งๆ ต่างที่เป็นคอนเทนต์ในการทำการตลาดแบบเนื้อหาเราก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีความจริงใจ

5) มีความเป็นต้นฉบับในรูปแบบของตัวเอง

ผู้สร้างเนื้อหาที่ดีควรรู้จักแสวงหาเอกลักษณ์หรือความเป็นต้นฉบับของตัวเอง เพื่อสะท้อนผ่านองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสำนวนหรือวลีในการเขียน โครงสร้าง และการถ่ายภาพก็เช่นกัน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างการจดจำให้กับผู้บริโภคเนื้อหา และมีความแตกต่างจากคู่แข่งอย่าง ชัดเจน

ข้อนี้เหมือนง่ายแต่ก็ทำให้เราบางครั้งอาจหลงลืม เพราะแอบหลงไปกับการค้นหาสิ่งที่พยายาม ดังนั้นอย่าลืมว่า เราต้องหาเอกลักษณ์และลักษณะเฉพาะของเราให้ได้มากที่สุด ซึ่งจากทั้งห้าข้อที่กล่าวมานั้นจะเห็นว่า การตลาดเชิงเนื้อหา สำหรับห้าขั้นตอนที่วันนี้เราเลือกมานำเสนอเพื่อแชร์ประสบการณ์ในการทำคอนเทนต์ในยุคที่ออนไลน์ต้องเดินหน้าไปกับกลุ่มเป้าหมาย เราต้องรู้จักกับกลุ่มเป้าหมายและช่องทางในการนำเสนอให้ดีภายใต้เอกลักษณ์ที่เป็นของเรา และสุดท้ายถ้าอยากให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อยอดประเด็นในการนำเสนอทั้งภาพนิ่ง วิดีโอ ไลฟ์สดให้มีค่า สตูดิโอ ของเราเป็นที่ปรึกษาได้นะคะ


เรียบเรียงโดย กมลวรรณ โกวิทวงศา



ดู 209 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page